ให้ตัวอักษร อยู่ในช่องกระจกที่มีในรัศมี 10 แฉก บนฐานรับลายก้านขด ใช้หินควอสใหมทองเจียรเหลียมประดับ ประดับภายใน พื้นผ้าใช้ผ้าต่วนสีชมพูหงสบาท ล้วงพื้นด้วยสีแดงของ ปากกา Sakura Fine opapue ตัดสีชมพูด้วยหินอความารีนสีฟ้าน้ำไหล วางอยู่ในดอกกลาง และลายมุม ด้านซ้ายขวาของยอดลายลายก้านขน ใช้พลอย CZ เพื่อเพิ่มความแวววาว เชือกใช้เป็นลายควั้นเกลียวด้ายสีม่วงแดงสอดดิ้นทอง ร้อยเชือกคล้องแบบสอดไขว้สามารถปรับขนาดได้ ระย้าใช้ลูกปัดเกรฟอาเกตสีชมพู กับโรสควอสเนื้อใส เพื่อให้ระย้าดูเบา ขับเน้นสี ม่วงชมพูของอาเกต
พื้นในช่องกระจกเป็นส่วนที่มี ที่ว่างมากที่สุดจึงวางให้เป็นจุดพักสายตา แต่มันต้องไม่เด่นขึ้นมาจนกินพื้นที่ของตัวอักษร และยังต้องเป็นเนื้อเดียวกับผ้า เหมือนเป็นพื้นที่ลึกลงไป นุ่นจึงเลือกการระบายสีมากกว่าการใช้ผ้าอีกชิ้นมาติด เพราะนุ่นต้องการให้เกรนผ้าเป็นลายเดียวกับ และไม่ต้องการให้มีรอยยับย่น ที่เกิดจากการปัก ทำให้เสียที่ว่างที่ควรจะเป็น รีเฟร็ตที่เกิดขึ้นยังไปรบกวน เงาสะท้อนที่ตกกระทบดิ้นทอง ทำให้ตัวหนังสืออ่านยากขึ้น
ชิ้นงานเมื่อมองในระยะไกลขึ้น (อยู่บนเวทีการแสดง) ลวดลายต่างๆจะถูกเบลอรวมกัน กลายเป็นสีเดียว ดั้งนั้น ในการมองเห็นจึงเห็นเหลือเพียง 2 สี คือสีชมพูอมเหลือง กับชมพูในช่องกระจก นุ่นจึงเลือกใช้สีสะท้อนแสงเพื่อให้มันสว่างกว่าสีวัตถุธาตุปรกติ จึงเป็นสีที่ครอบอยู่บนลายตัวอักษร ทำให้เห็นเส้นของตัวอักษรไปชัดเจนขึ้น
เพื่อใช้บรรจุวัตถุ 3 ชิ้น คือ ตัวผ้าปัก กรอบโชว์ผลงาน และห่อผ้าสำหรับพกพา
ออกแบบให้ฝากล่องเป็นช่องเปิด แล้วใช้ซองจดหมายซึ่งใส่คำแนะนำการใช้ผ้าปัก ทำเป็นหน้าต่างเปิดปิด ทำเมาท์บอร์ดสำหรับใส่ชิ้นงานให้พอดีกับตัวกล่อง เมื่อตั้งขึ้นชิ้นงานตรงหน้าต่างพอดี สามารถเปลี่ยนซองจดหมาย เป็นแผ่นใสหรือกระจก เพื่อเป็นกล่องตั้งโชว์ ได้โดยไม่ต้องนำชิ้นงานออกมา
ออกแบบและผลิต
เมนาท วรรัตนวัชร